Demand
หมด
ไม่
เม็ด
ปอก
กลุ่ม : หากินกับกราฟ เทรดทอง,เทรดForex,Crypto,เล่นหุ้น,BITCOIN
Supply
เม็ด
เหมือนใคร
Demand - Supply
อุปสงค์ - อุปทาน
Demand และ Supply ในแง่ของการเทรด สามารถเข้าใจได้ง่ายๆ ว่าเมื่อผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดเข้ามาเทรด พวกเขามีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของราคาอย่างมากเนื่องจากปริมาณออเดอร์ที่มหาศาล หากเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่ารายใหญ่จะดันราคาไปทางไหน แต่ทุกอย่างแสดงออกมาทางแท่งเทียน และแพทเทิร์นของกราฟทั้งหมดแล้ว คอนเซปของเทคนิค Demand Supply อธิบายให้เห็นภาพง่ายๆ คือ เมื่อรายใหญ่เข้าเทรดแต่ละครั้ง แน่นอนว่าจำนวนออเดอร์มากมายมหาศาล เมื่อเรามองภาพเดียวกันกับรายใหญ่จะทำให้เราได้เข้าเทรดในจุดเดียวกับรายใหญ่นั่นเอง เพื่อช่วยให้คุณสามารถเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกับผู้เล่นรายใหญ่
Demand
Demand หมายถึง จุดที่มีความต้องการซื้อ เป็นจุดที่รายใหญ่มองว่าต้องการจะซื้อ จะสังเกตเห็นว่าพอราคามาถึงจะมีการเด้ง เมื่อมีการเข้าซื้อจะเห็นเป็นแท่งเทียนสีเขียวใหญ่ยาว ตรงจุดนี้ที่เราเรียกว่าเป็น Demand หรือว่าจุดรายใหญ่เข้าซื้อนั่นเอง
Supply
Supply หมายถึง จุดที่มีความต้องการขาย จะสังเกตเห็นว่าพอราคาไปถึงจุดที่ต้องการขายเราจะเห็นแท่งเทียนสีแดงใหญ่ยาวเนื้อแน่นแดง เกิดจากมีออเดอร์ Sell เป็นจำนวนมากนั่นเอง
Demand - Supply
Zone 4 Patterns
ก่อนที่เราจะศึกษารูปแบบของแท่งเทียน เรามาทำความเข้าใจกับพื้นฐานของ Demand และ Supply Zone กันก่อน โดยการสำรวจทั้ง 4 แพทเทิร์น
Demand Zone 2 patterns
Supply Zone 2 patterns
Demand Zone 2 patterns
RBR
Drop Base Rally (DBR)
Drop Base Rally (DBR) เป็นรูปแบบที่เกิดเมื่อราคาลดลง พักตัวเป็นกลุ่ม 'Base' และตามด้วยแรงซื้อที่ผลักดันราคาให้เพิ่มขึ้น แพทเทิร์นนี้สามารถบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงทิศทางของราคาหรือการกลับตัว
Demand Zone 2 patterns
DBR
Rally Base Rally (RBR)
Rally Base Rally (RBR) เป็นรูปแบบที่เกิดขึ้นเมื่อราคาปรับตัวขึ้น พักตัวเป็นกลุ่ม 'Base' แล้วเป็นการผลักดันราคาให้เพิ่มขึ้นอีกครั้ง แพทเทิร์นนี้บ่งบอกถึงโอกาสที่ราคาจะดำเนินต่อไปในทิศทางเดียวกันหรือแสดงถึงการเริ่มต้นของเทรนด์
Supply Zone 2 patterns
DBR
Rally Base Drop (RBD)
Rally Base Drop (RBD) เป็นรูปแบบที่เกิดขึ้นเมื่อราคาพุ่งขึ้นไปก่อนพักตัวเป็นกลุ่ม 'Base' และสิ้นสุดด้วยการที่แรงขายผลักดันราคาลง แพทเทิร์นนี้สามารถบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงทิศทางของกราฟหรือกลับตัว
Supply Zone 2 patterns
DBD
Drop Base Drop (DBD)
Drop Base Drop (DBD) เป็นรูปแบบที่เกิดเมื่อราคาลดลง พักตัวเป็นกลุ่ม 'Base' และตามมาด้วยแรงขายที่ผลักดันราคาลงต่อ แพทเทิร์นนี้บ่งบอกถึงโอกาสที่ราคาจะดำเนินต่อในทิศทางลง
Demand Zone
การตีกรอบ Demand Zone
ขอบบน
DZ DBR
ขอบล่าง
Drop Base Rally (DBR)
ขอบบน
DZ RBR
ขอบล่าง
Rally Base Rally (RBR)
ตีประชิดเนื้อเทียนที่เป็น Base แท่งสุดท้ายก่อนแท่ง Imbalance หรือว่าแท่งที่ใหญ่ยาวเนื้อแน่นหลุดออกจากกลุ่มโซน
ไส้เทียนที่ต่ำที่สุดของกลุ่ม Base ตรงนี้สำคัญมากๆ เพราะว่าเราจะเอาไว้วาง Stop loss บริเวณใต้โซน
ตัวอย่าง
Demand Zone
การตีกรอบ Demand Zone
Drop Base Rally (DBR)
Rally Base Rally (RBR)
Demand Zone
ในกรณีที่ Demand Zone มีรูปแบบเป็น Drop Base Rally (DBR) ฝั่งซ้ายของโซนนั้นจะแสดงถึงเทรนด์ที่ราคาลดลงก่อนที่จะเกิดรูปแบบดังกล่าว หลังจากนั้นราคาจะมีช่วงพักตัวหรือ 'Base' ก่อนที่จะเกิดการพุ่งแรลลี่ขึ้นสูง เมื่อราคาแสดงพฤติกรรมนี้ เราจะได้รูปแบบพาทเทิร์น DBR ซึ่งเป็นสัญญาณของ Demand Zone ที่ราคาพุ่งขึ้นจาก Base
สิ่งที่ควรสังเกตคือ ในช่วงที่ราคาพุ่งขึ้น แท่งเทียนที่ปรากฏควรมีขนาดใหญ่และเนื้อแน่น หากเป็นเช่นนี้ จุดนี้อาจเป็นจุดสำคัญที่เหมาะสมสำหรับการพิจารณาเข้าซื้อ โดยเฉพาะถ้ามีสัญญาณอื่นเช่น Divergence หรือการกลับตัวของแท่งเทียน
Demand Zone
Buy
SL
Buy
DBR
SL
RBR
หากหุ้นกลับสู่ระดับราคาที่เราคาดว่าเป็นโซนความต้องการ (Demand Zone) ของ DBR มีโอกาสที่ราคาจะเพิ่มขึ้นต่อไป ในทางกลับกัน ถ้าไม่มีความต้องการในระดับนี้ ราคาอาจลดลงออกจากโซนนี้ หากเราพิจารณาซื้อ (Buy) Stop Loss ควรตั้งไว้ต่ำกว่าโซนนี้เสมอ แต่หากราคาไม่ได้ลดลงถึงจุด SL และไม่ต่ำกว่าโซนความต้องการ ราคาอาจพุ่งขึ้นต่อและมีโอกาสเปลี่ยนจากเทรนด์ขาลงเป็นเทรนด์ขาขึ้น สร้างรูปแบบที่เรียกว่า Rally Base Rally (RBR) เมื่อเราได้โซนความต้องการแล้ว เราจะรอให้ราคากลับมาที่โซนนี้อีกครั้งก่อนที่จะพิจารณาซื้อ โดยจุด SL ยังคงตั้งไว้ต่ำกว่าโซนเช่นเดิม
Supply Zone
การตีกรอบ Supply Zone
ขอบบน
SZ RBD
ขอบล่าง
ขอบบน
SZ DBD
ขอบล่าง
ไส้เทียนที่สูงที่สุดของกลุ่ม Base เพื่อใช้ในการวาง Stop loss บริเวณเหนือโซน
ตีประชิดเนื้อที่ Base แสงสุดท้ายก่อนแท่ง Imbalance หรือว่าแท่งที่ใหญ่ยาวเนื้อแน่นหลุดออกจากกลุ่มพักตัว
ตัวอย่าง
Supply Zone
การตีกรอบ Supply Zone
Rally Base Drop (RBD)
Drop Base Drop (DBD)
Supply Zone
รูปแบบ Rally Base Drop (RBD) เป็นการเปลี่ยนแปลงจากเทรนด์ขาขึ้นเป็นขาลง และรูปแบบ Drop Base Drop (DBD) ที่พบในเทรนด์ขาลงหรือก่อนที่ราคาจะลดลงต่อไป ในกรณีที่ราคาเป็นเทรนด์ขาขึ้นก่อนหน้านี้ เราอาจพบการพักตัวของราคาก่อนที่จะมีการ Rally ขึ้นต่อ แต่หากราคาไม่สามารถขึ้นต่อได้ มักเกิดการลดลงที่สร้างรูปแบบ RBD ซึ่งกำหนด Supply Zone ในการเทรดจากโซนนี้ เราจะรอให้ราคากลับขึ้นไปทดสอบที่โซนนี้แล้วขาย (Sell) อย่างไรก็ตาม สำคัญที่ต้องตรวจสอบความแข็งแกร่งของแท่งเทียนที่ราคาลดลงจาก Base โดยที่แท่งเทียนนี้ควรจะมีลักษณะใหญ่ ยาว และเป็นสีแดงเพื่อแสดงถึงความแข็งแกร่งของการลดลง
Supply Zone
SL
Sell
RBD
SL
Sell
DBD
เมื่อราคากลับขึ้นไปทดสอบที่ Supply Zone เราจะพิจารณาความเป็นไปได้ในการเทรดที่จุดนี้โดยสังเกตการณ์สัญญาณการกลับตัว เช่น Divergence หรือรูปแบบของแท่งเทียนการกลับตัว หากพบสัญญาณเหล่านี้ สามารถพิจารณา Sell ที่จุดนี้ โดย stop loss ควรวางอยู่เหนือขอบบนของโซน
หากราคาปรับตัวลดลง และเริ่มปรากฏรูปแบบ Drop Base Drop (DBD) ซึ่งบ่งบอกถึงเทรนด์ขาลง การเทรดยังคงเป็นไปตามวิธีเดิม รอให้ราคากลับขึ้นมาทดสอบโซนก่อนทำการ Sell การวาง SL ยังคงเหมือนเดิม คือวางเหนือขอบบนของโซน
Demand-Supply Zone
เมื่อกราฟแสดงการก่อตัวของโซนความต้องการ (Demand Zone) หรือโซนการจำหน่าย (Supply Zone)เราจะรอจนกว่าราคาจะกลับมาทดสอบโซนดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง
Buy
SL
Buy
DBR
SL
RBR
SL
Sell
RBD
SL
Sell
DBD
การเข้าเทรด Demand Zone
การเข้าเทรด Supply Zone
ทำการ Buy ที่ Demand Zone โดยวาง SL ไว้ใต้กรอบของโซน
ทำการ Sell ที่ Supply Zone โดยวาง SL ไว้บนกรอบของโซน
Demand-Supply Zone
การซื้อขายตามทิศทางเดียวกับผู้เล่นรายใหญ่ เช่น กองทุนหรือธนาคารระดับโลก มักจะมีอัตราการชนะ (Winrate) ที่สูงขึ้น เมื่อผู้เล่นเหล่านี้ขายออกและทำกำไร จะเกิดโซนการจำหน่าย (Supply Zone) ในกรณีนี้ เราควรรอให้ราคากลับเข้ามายังโซนนี้อีกครั้ง ตรวจสอบ Price Action แล้วทำการขาย (Sell) ในทางตรงกันข้าม เมื่อผู้เล่นรายใหญ่ซื้อเข้า จะเกิดโซนความต้องการ (Demand Zone) ในสถานการณ์นี้ เราควรรอให้ราคากลับเข้ามายังโซนนั้นอีกครั้ง ตรวจสอบ Price Action แล้วทำการซื้อ (Buy)
Demand zone
รายใหญ่ซื้อ
Demand Zone RBR
รอซื้อตาม
Demand Zone RBR
Demand Zone DBR
รายใหญ่ซื้อ
รอซื้อตาม
Supply zone
รอขายตาม
รายใหญ่ขาย
Supply Zone RBD
รอขายตาม
Supply Zone RBD
รายใหญ่ขาย
Demand-Supply Zone
2. การวางแผนการเทรดทำได้สะดวกขึ้น
จุดเข้าจุดออกชัดเจน
เมื่อเราสังเกตเห็นรอยทางของผู้เล่นรายใหญ่ที่สร้างโซนราคาชัดเจน หากราคาเคลื่อนที่กลับเข้าสู่โซนนี้ เราสามารถเริ่มต้นการเทรดได้ทันที โดยตั้งจุดหยุดขาดทุน (Stop loss) อยู่เหนือ Supply zone หรือต่ำกว่า Demand zone อย่างไรก็ตาม หากราคาสามารถทะลุผ่านโซนเหล่านี้ไปถึง SL ของเราได้ เราควรยอมรับความเสี่ยงและเริ่มวางแผนการเทรดใหม่
จุดเข้าจุดออกชัดเจน
Supply zone
Demand zone
Stop loss
Stop loss
Sell ในกรอบ Supply
วาง SL เหนือกรอบ
Buy ในกรอบ Demand
วาง SL ใต้กรอบ
Demand-Supply Zone
3. อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนมีค่าสูง
( Risk : Reward )
อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนมีค่าสูง เนื่องจากการเข้าทำการเทรดที่จุดที่มีความแม่นยำสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของตลาดหลัก ซึ่งทำให้ SL มีระยะทางที่สั้นลง และเก็บระยะทำกำไรได้ยาวกว่า
3. อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนมีค่าสูง
ตัวอย่าง
Stop loss
1881
1873-1875
TP 1
1865
+++1000 Points
1860
TP 2
+++1500 Points
1850
TP 3
+++2500 Points
เมื่อพบกับโซนที่เป็นที่สนใจ คำถามคือเราจะรู้ได้อย่างไรว่าโซนใดเหมาะสมสำหรับการเทรด? ความจำเป็นในการประเมินความแข็งแรงของแต่ละโซนเกิดขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะส่งผลเสียต่อพอร์ตลงทุน หรือทำให้เกิดการถูกหยุดการเทรด (Stop Loss) อย่างบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มีโซนหลายแห่งอยู่ใกล้กัน การเลือกเทรดในโซนที่มีความแข็งแรงที่สุดจึงเป็นสิ่งสำคัญ
เพื่อประเมินความแข็งแรงของโซน มี 3
ปัจจัยหลักที่ต้องพิจารณา ได้แก่
ใหญ่และยาวพร้อมทั้งมีความแข็งแรง
นั่นหมายความว่า zone ดังกล่าวมีปริมาณการซื้อหรือขายที่สูง ซึ่งบ่งบอกถึงการเข้ามาของนักลงทุนรายใหญ่ในอดีต ทำให้เราสามารถใช้จุดนี้เพื่อกำหนดเป้าหมายในการทำกำไร หรือนำมาเป็นจุดสำหรับการเข้าทำการเทรด
ตัวอย่าง Imbalance
มีไส้เทียนยาวเกินไป
ราคาไม่ได้สร้าง HH หรือ LL
Supply RBD
แท่งไม่ยาวเล็กและดูไม่แข็งแรง
ตัวอย่าง Imbalance
แท่งยาวใหญ่และดูแข็งแรง
มีไส้เทียนสั้นหรือมีน้อย
ราคาได้สร้าง HH หรือ LL
Supply RBD
2. กลุ่ม Base จะต้องพักตัวไม่เกิน 6 แท่ง
หาก Base Zone ประกอบด้วยมากกว่า 6 แท่ง มันบ่งชี้ถึงช่วงเวลาพักตัวที่ยาวนานเกินควร และการตัดสินใจที่ล่าช้า ซึ่งอาจส่งผลให้โซนนี้ขาดการซื้อขายที่เข้มข้นจากนักลงทุนรายใหญ่ ส่งผลให้เกิดความอ่อนแอใน Base Zone ดังกล่าว ดังนั้น หากเราสังเกตเห็นว่ามีการพักตัวยาวนานเกินปกติอย่างนี้ ควรระมัดระวังว่าโซนนั้นอาจไม่มีความแข็งแรง
ตัวอย่าง กลุ่ม Base
ทะลุโซน
Demand zone RBR
มีกลุ่ม Bace มากกว่า 6 แท่ง
ตัวอย่าง กลุ่ม Base
Supply RBD
ใช้เวลา Base ไม่นานและแคบ
3.เป็นโซนที่ยังไม่เคยทดสอบใช้มาก่อน
zone ที่ใช้บ่อยครั้งยิ่งอ่อนแอ่ลง นั่นหมายความว่าหากโซนนั้นถูกใช้งานซ้ำๆ หลายครั้ง เรามักจะไม่นิยมเลือกเทรดในโซนนั้น และมักจะมองหาโซนใหม่ที่ยังไม่เคยถูกใช้งาน หรือโซนที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ เพราะโซนใหม่เหล่านี้มักจะมีโอกาสสูงสำหรับการใช้งานครั้งแรกเมื่อเทียบกับโซนที่เคยมีการทำการเทรดมาแล้วก่อนหน้านี้ ตามสถิติ การใช้โซนครั้งแรกมีโอกาสชนะสูงกว่าการเทรดในจุดที่เคยสัมผัสมาก่อน
ตัวอย่าง โซนที่
มีการมาทดสอบที่โซนมากกว่า 1 ครั้ง
ครั้งที่ 3
ทะลุโซน
ครั้งที่ 1
ครั้งที่ 3
ครั้งที่ 2
Supply zone
ตัวอย่าง โซนที่
Demand zone RBR
Imbalance ใหญ่ ยาว เนื้อแน่น
Base ไม่เกิน 6 แท่ง
มีการทดสอบครั้งแรก
สนับสนุนโดย
เราเป็นเพียงช่องทางสำหรับแบ่งปันความรู้และข้อมูลเท่านั้น เราไม่สนับสนุนการเทรด และการลงทุนทุกกรณี ทั้งนี้การลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลและเข้าใจในความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน